Change the world

วันนี้มีประเด็นคุยจากเพื่อนในกรุ๊ปหนึ่ง
ลาออกจากหน่วยงาน
ด้วยเหตุผล “ทางตัน” ในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางวิชาชีพ
ไป “ทำมาหาเงิน” ประกอบวิชาชีพส่วนตัว เก๋ๆ รวยๆ สบายคนเดียวก็ได้
ไม่ต้องมานั่งเครียด

คนเรามักจะมีไฟการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ เมื่ออยู่ใน 2 สถานะ

สถานะแรก คือตอนเรียนจบมาใหม่ๆ
เรามักจะมีความรู้เต็มเปี่ยม อยากทำงานที่รัก
อยากพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
สิ่งที่จะได้ติดตัวไป ก็คือ ทักษะในด้านต่างๆ
บางรายถึงระดับ specialist เลยทีเดียว

สถานะที่สอง คือตอนที่มีตำแหน่งในหน่วยงาน
พอเรามีอำนาจในระดับหนึ่ง เราก็จะอยากผลักดันวงการ ให้พัฒนาไปอีก
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าอำนาจเราไม่เพียงพอ
แถมขาดแคลนบริวาร คนคอยสนับสนุน
ซ้ำร้ายมีคนไม่สนับสนุน ยังจ้องขัดขวาง
ก็อาจจะนำมาซึ่งความสิ้นหวัง

สิ่งหนึ่งที่เรามักจะหาเหตุผล มาปลอบใจในเรื่องนี้
คือเรื่อง “ไดโนเสาร์” ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ทั้งตัวเอง และเซฟโซน
ซึ่งเซฟโซนนี่เอง เป็นสาเหตุที่ว่า ฉันไม่อยากให้เปลี่ยน ใครก็เปลี่ยนไม่ได้
แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วแค่ไหน เทคโนโลยีจะล้ำหน้าเพียงใด
ความคิดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ก็ยังคงมีอยู่

เมื่อเรามองในจุดนี้
นักปฏิวัติ นักปฏิรูป นักประดิษฐ์ คิดค้นสิ่งต่างๆ ในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐาน ไปจนถึงสิ่งยิ่งใหญ่ ถือว่ามีความรู้ความสามารถ
และยังต้องมีความอดทนต่อสภาพกดดันรอบตัว

ถึงจะประสบความท้อแท้สิ้นหวัง
มันจะต้องมีฮีโร่เปลี่ยนโลกใบนี้ ให้ไปในทางที่ดีขึ้นจนได้
ไม่ต้องรอฮีโร่ที่ไหน แมวดื้อเชื่อว่าเราทุกคนเป็นฮีโร่ในแบบตัวเราเอง
เปลี่ยนโลกใบนี้ เริ่มต้นที่ตัวคุณ จากสิ่งรอบข้าง ทำให้มันดีขึ้น

Let’s CHANGE the WORLD Together